คณะทำงานตรวจสอบกรณีอัยการไม่สั่งฟ้องนายวรยุทธ "บอส" อยู่วิทยา ผู้ต้องหาหนีคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ที่แต่งตั้งโดยอัยการสูงสุด (อสส.) ระบุคำสั่งไม่ฟ้องทายาทกระทิงแดงเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด แต่พบพยานหลักฐานเพิ่มเติมใน 2 ประเด็น คือ ความเร็วรถและยาเสพติด ที่สามารถดำเนินคดีทายาทกระทิงแดงต่อได้
"แม้จะมีคำสั่งเด็ดขาดไม่สั่งนายบอส แต่คดีนี้ยังไม่จบ ...เนื่องจากหนึ่งมีพยานหลักฐานใหม่ และสองมีข้อเท็จจริงในสำนวนแต่ยังไม่แจ้งข้อหา" นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะทำงานตรวจสอบการสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าวกล่าวในการแถลงข่าวในวันนี้ (4 ส.ค.) หลังจากสิ้นสุดกรอบเวลา 7 วันที่ คณะทำงานฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และมีเหตุผลในการสั่งพิจารณาคดีอย่างไร
นายประยุทธกล่าวว่าคณะทำงานจะดำเนินการต่อไปใน 2 ประการ คือ ประการแรกจะแจ้งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทสอง (โคเคน) ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ในมาตรา 58 และ 91 และประการที่สอง จะให้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147 ทำการสอบสวนใหม่ในประเด็นขับรถโดยประมาทซึ่งอายุความเหลืออีก 7 ปี
อย่างไรก็ตาม คณะทำงานชุดนี้ ยืนยันว่าคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ โดยนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดเป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุดทุกประการ โดยการพิจารณายึดตามพยานหลักฐานตามแนวทางการสอบสวนของตำรวจ
พบหลักฐานใหม่ ในข้อหาขับรถเกินกว่ากม. กำหนด
ในประเด็นการแจ้งให้ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดนั้น นายประยุทธกล่าวว่าคณะทำงานฯ พบหลักฐานใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในสำนวนมาก่อน คือ การให้ข้อเท็จจริงของพยานปากหนึ่ง คือ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งคำนวนความเร็วรถของนายบอสได้ที่ 177 ก.ม.ต่อช.ม. แต่ไม่ปรากฏข้อมูลนี้ในสำนวนการสอบสวน อสส. ซึ่งมีเพียงคำให้การของพยานที่ระบุว่านายวรยุทธขับรถด้วยความเร็วประมาณ 70-90 กม./ชม. คณะทำงานฯ จึงได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนให้เริ่มต้นสอบสวนคดีนี้ใหม่อีกครั้ง
เสนอสอบสวนคดีโคเคนต่อ
นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา กล่าวอธิบายในเรื่องผลการตรวจเลือดในวันเกิดเหตุคือวันที่ 3 ก.ย. 2555 ตามการตรวจสอบโดยสาขาวิชานิติเวชวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุถึงสารแปลกปลอมที่พบในร่างกาย ที่พบสาร 2 ชนิด คือ
1. Benzoyleegorine เป็นสารที่เกิดขึ้นในเลือด ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงในร่างกายหลังจากการเสพโคเคนซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ โดยโคเคนปกติจะไม่พบปนอยู่ในยาหรืออาหาร และสามารถอยู่ในเลือดได้นานถึง 18-28 ชั่วโมงหลังเสพ
2. Cocaethylene เป็นสารที่เกิดขึ้นในเลือดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงในร่างกายหลังจากการเสพโคเคนร่วมกับแอลกอฮอล์
อย่างไรก็ตาม นายชายชัยระบุว่า ในข้อเท็จจริงนี้สารดังกล่าวไม่ใช่ยาเสพติด แต่การพบสารประเภทนี้จะสามารถยืนยันว่าผู้ต้องหาเสพโคเคนหรือไม่นั้นต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงอีกครั้ง ซึ่งคณะทำงานฯ มีความเห็นว่า ข้อหาส่วนนี้ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายวรยุทธ จึงเสนอให้อัยการสูงสุดแจ้งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ซึ่งยังไม่หมดอายุความ
ที่มาของการตั้งคกก.ตรวจสอบ
การตัดสินใจของอัยการสูงสุดเข้ามาตรวจสอบการพิจารณาคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ เกิดขึ้นหลังเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในสังคมหลังจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้รายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.อ. สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานอัยการสูงสุดวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธและมีการเพิกถอนหมายจับแล้ว
คำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าวมีนายเนตร นาคสุข อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง ขณะรักษาการรองอัยการสูงสุด (รองอสส.) เป็นผู้ออกคำสั่ง และคดีนี้ เมื่อไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทาง พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ลงนามไม่แย้งคำสั่งพนักงานอัยการ
กรรมการที่แต่งตั้งโดยอัยการสูงสุด 7 คน ประกอบด้วยใครบ้าง
1. นายสมศักดิ์ ติยะวานิช รองอัยการสูงสุด หัวหน้าคณะ
2. นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อดีตอัยการ
3. นายชาติพงศ์ จีระพันธุ อดีตอัยการ
4. นายปรเมศว์ อินทรชุมนุม อดีตอัยการ
5. นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการ
6. นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอธิบดีอัยการ
7. นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษ
นอกจากคณะกรรมการดังกล่าวของ อสส. แล้ว ยังมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนี้มาหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 225/2563 ซึ่งมี ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ เป็นประธานกรรมการ
นายวรยุทธ หรือบอส กลายเป็นผู้ต้องหาในคดี ขับรถหรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตโดยลากร่างตำรวจนายนี้ไปกว่า 200 เมตร เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555 ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาเขาได้หลบหนีไปต่างประเทศ หลังจากเข้ารับทราบกล่าวหาแล้ว ก็ให้ทนายแจ้งต่ออัยการเลื่อนคดีหลายครั้ง จนหลายข้อหาหมดอายุความ และที่กลายเป็นประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ล่าสุด เกิดจากพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
"ที่มา" - Google News
August 04, 2020 at 01:14PM
https://ift.tt/2EL0CaN
บอส อยู่วิทยา: คณะทำงานของอัยการสูงสุดพบพยานหลักฐานใหม่ สั่งสอบเพิ่มเรื่องความเร็วและยาเสพติด - บีบีซีไทย
"ที่มา" - Google News
https://ift.tt/2ZXuIAi
No comments:
Post a Comment